เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าการทำประกันที่ดีนั้นต้องมีความพร้อมเรื่องของกำลังทรัพย์ในการจ่ายเบี้ย การทำประกันออมทรัพย์ก็เช่นกันเราต้องมีความพร้อมว่าตัวเรานี้พร้อมและเหมาะสมที่จะทำประกันออมทรัพย์หรือไม่ เพื่อประโยชน์สูงสุดของตัวเราเอง
1.ตรวจสอบว่าอยากได้ไหม
ถามใจเราดูว่าสิ่งจริงๆที่เราอยากได้จากการทำประกันออมทรัพย์นั้นคืออะไร หากตอบได้ว่าอยากเน้นการเก็บออมเงินมากกกว่าการคุ้มครองชีวิต ถือว่าประกันออมทรัพย์นี้เหมาะสมและตอบโจทย์ของตัวเราแล้ว แต่หากเราอยากเน้นด้านสุขภาพหรือการคุ้มครองชีวิต การทำประกันออมทรัพย์นั้นถือได้ว่าไม่เหมาะสมกับเราเลย
2.ความพร้อมด้านการเงิน
ในการทำประกันต่างๆ ควรทำโดยจ่ายเบี้ยประกันไม่เกิน 10% ของรายได้รวมของเราต่อปี อย่ามุ่งหวังที่จะจ่ายเบี้ยประกันสูงๆเพียงเพราะอยากได้ทุนประกันที่สูง หากเราไม่พร้อมส่งไม่ไหวจะกลายเป็นเราเสียเงินโดยที่ไม่ได้อะไรกลับมาเลย คำนวนความพร้อมของเงินในกระเป๋าให้ดีก่อนการตัดสินใจ ไม่อย่างนั้นจากเก็บเงินได้ จะกลายเป็นเสียเงินเอา
3.ทบทวนเป้าหมาย
ถามตัวเองว่าเป้าหมายการทำประกันออมทรัพย์ของเรานั้นคืออะไร เราต้องการออมเงินในช่วงระยะเวลากี่ปี 5ปี 10 ปี หรือเท่าไหร่ โดยอาจจะคำนวณจากอายุว่าจะทำไว้รอการเกษียณหรืออาจจะเป็นช่วงจุดอิ่มตัวที่อยากได้เงินก้อนออกมาทำธุรกิจเป็นของตัวเอง
4.ความมั่นคงพร้อมหรือไม่
ความมั่นคงในที่นี้ไม่ได้หมายเพียงถึงตัวเรา แต่หมายถึงบริษัทประกันภัยที่เราจะไว้วางใจให้เขาเป็นผู้ดูแลกรมธรรม์ประกันออมทรัพย์ให้กับเราว่าบริษัทนั้นมีการรับรองอย่างถูกต้องจาก คปภ.หรือไม่ และมีความน่าเชื่อถือ มีความมั่นคงเพียงใด หากไม่ตรวจสอบและทำประกันไปแล้วถึงเวลาไม่สามารถที่จะเรียกรับผลประโยชน์ได้ งานนี้จะเป็นเรื่องยุ่งเสียทั้งเงินและเวลา
เรียกได้ว่า 4 เช็คนี้เพียงพอให้เราตรวจสอบตัวเอง ทบทวนตัวเองให้พร้อมกับการทำประกันชีวิตทั้งนี้เพื่อประโยชน์สูงสุดที่จะเกิดกับตัวผู้ทำประกันเอง และทั้งหมดที่เราได้แนะนำมาคุณสามารถนำวิธีนี้ไปปรับใช้ได้เลย หากมีการวางแผนที่ดี คุณก็จะมีเงินเก็บได้ไม่ยาก เรามีประกันดีๆที่อยากแนะนำ ออมคุ้มคุ้ม ประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ ที่ให้คุณคุ้มอันดับหนึ่ง ออมก็ง่าย พร้อมลดหย่อนภาษีอีกด้วย คุ้มขนาดนี้ รีบสมัครได้เลย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.kwilife.com/endowment