เทคนิคการเลือกแผนประกันสุขภาพ

ในการเลือกซื้อสินค้าอะไรสักหนึ่งอย่างนั้น แน่นอนว่าแค่ใช้แล้วชอบหรือพอใจในสินค้าอย่างเดียวก็คงไม่ได้ เราอาจต้องพิจารณาถึงอรรถประโยชน์อื่นๆที่เราจะได้รับจากสินค้าชนิดนั้น เราอาจต้องมองถึงค่าใช้จ่ายที่ได้จ่ายไปเพื่อให้ได้มาถึงสินค้า ความคุ้มค่าที่ได้รับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ทางด้านการเงินอย่างการทำ ประกันสุขภาพ ที่จะช่วยเพิ่มความคุ้มครองให้กับเราได้ในระยะยาว และคืนผลตอบแทนให้เมื่อสิ้นสุดกำหนดสัญญา ดังนั้นในการซื้อประกันสุขภาพดีสักหนึ่งฉบับ นอกจากความคุ้มครองที่ได้รับแล้ว เราก็ควรที่จะให้ความสำคัญกับประโยชน์ในปัจจุบันและในอนาคตด้วย และถ้าหากใครที่กำลังมองหาเทคนิคในการเลือกซื้อประกันสุขภาพ วันนี้เราจะมาแนะนำให้ฟังกันครับ

1.ควรศึกษารูปแบบและประเภทของประกันสุขภาพ ที่คุณต้องการเลือก
โดยพยายามมองหาว่า ประกันนั้นๆ มีการคุ้มครองในลักษณะไหนเป็นแบบที่กรณีเกิดเจ็บป่วย หรือเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา จะมีการคุ้มครองทันที หรือจะต้องรอให้เป็นไปตามกำหนดสัญญาเสียก่อน จึงจะได้รับการคุ้มครอง
การประกันสุขภาพจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ก็คือ
· การประกันสุขภาพและอุบัติเหตุ แบบรายบุคคล
· การประกันสุขภาพและอุบัติเหตุ แบบรวมกลุ่ม

2.ศึกษาว่าคุณเหมาะกับการเป็นผู้ป่วยประเภทไหน
ตามหลักแล้วผู้ป่วยจะแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทด้วยกันได้แก่
ผู้ป่วยใน (Out–Patient–Department : IPD) หมายถึง ผู้ที่ลงทะเบียนเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล หรือสถานพยาบาลเวชกรรม ติดต่อกันไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง โดยได้รับการวินิจฉัยและคำแนะนำจากแพทย์และให้รวมถึงการรับตัวไว้เป็นผู้ป่วยในแต่เสียชีวิตก่อน 6 ชั่วโมงด้วย
ผู้ป่วยนอก (Out–Patient–Department : OPD) คือผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษา โดยไม่ต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลสามารถกลับบ้านได้เลยในวันที่เข้ารับการรักษา
คุณจำเป็นที่จะต้องศึกษากรมธรรม์ประกันสุขภาพให้ดีเพราะบางฉบับอาจมีการระบุเงื่อนไขการเบิกสินไหมทดแทนระหว่างผู้ป่วยในกับผู้ป่วยนอกไว้ การที่จะเบิกสินไหมได้ต้องดูเงื่อนไขของประกันฉบับนั้นๆ

3.ตรวจสอบค่าความคุ้มครองของประกัน
คุณจำเป็นจะต้องตรวจสอบให้ดีว่ามีค่าคุ้มครองที่คุ้มค่ากับเบี้ยประกันที่จ่ายไปหรือไม่ ตั้งแต่ค่าห้อง กรณีนอนโรงพยาบาล ค่าอาหาร ค่ารักษาพยาบาล และค่าบริการทั่วไปเหล่านี้ บางโรงพยาบาลมีค่าใช้จ่ายที่แพง อาจจะส่งผลให้ผู้เอาประกัน ต้องจ่ายส่วนต่างที่เกินมา สูงเกินความจำเป็น และไม่คุ้มกับการทำประกันได้

4. เลือกตัวแทนประกันที่วางใจได้
เมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือเรื่องฉุกเฉินขึ้นนั้น ตัวแทนประกันที่คุณตกลงทำสัญญาด้วยจะมีส่วนอย่างมากในการช่วยคุณเบิกค่ารักษา และดำเนินเรื่องต่างๆในเวลาคับขัน ฉะนั้นแล้วคุณต้องพิจารณาเลือกตัวแทนประกันให้ดี

เพียงสี่ข้อง่ายๆนี้ คุณก็จะสามารถเลือกซื้อประกันสุขภาพ ในรูปแบบที่ต้องการได้ แถมยังช่วยให้เลือกซื้อประกัน ได้อย่างเหมาะสมกับความต้องการและการใช้ชีวิตอีกด้วย หากคุณได้เข้าใจถึงเทคนิคในการเลือกซื้อประกันสุขภาพ และกำลังมองหาแผนประกันสุขภาพที่ความคุ้มครองที่ครบถ้วน คุ้มกันจากปัญหา COVID-19 เราขอแนะนำ แมนูไลฟ์ ฟินชัวรันส์ แผนประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองทั้งชีวิตและสุขภาพสูงสุดถึง 10 ล้านบาทต่อปี พร้อมค่าห้องสูงสุดถึง 9,000 บาทต่อวัน และสิทธิ์รักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกแบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง สูงสุดถึง 50,000 บาทต่อปี พร้อมสิทธิลดหย่อนภาษีเบี้ยประกันสุขภาพ สูงสุด 25,000 บาทต่อปี